ฝึกลูกให้ประสบความสำเร็จในชีวิต

จาก 'มุมนี้มีสาระ'
http://www.geocities.com/eccoiris/know.htm


        การที่เด็กประสบความสำเร็จในชีวิตได้นั้นนอกจากจะมีความสามารถทางเชาว์ปัญญาแล้ว จะต้องมีความพร้อมทั้งด้านร่างกายและ อารมณ์และจิตใจควบคู่ไปด้วย ปัจจุบันเชื่อว่า IQ (Intelligence Quotient) เป็นเพียงส่วนประกอบหนึ่งที่ทำให้คนเราประสบความสำเร็จ เพราะมีส่วนประกอบอื่นๆ อีกหลายอย่าง ที่เป็นปัจจัยสำคัญต่อการประสบความสำเร็จในชีวิต นั่นคือ EQ (Emotional Quotient) ซึ่งเป็นความสามารถทางอารมณ์ การที่คนเราสามารถรอคอยเพื่อสนองความต้องการของตนเอง อาจเป็นทักษะที่สำคัญอันหนึ่งที่บ่งบอกความสำเร็จของคนๆนั้น พบว่าคนที่ EQ สูงจะสามารถใช้สติปัญญาได้อย่างเต็มที่มากกว่า

ความสามารถทางอารมณ์ ประกอบด้วย

1. ความสามารถในการรับรู้ความรู้สึกของตัวเอง สามารถเข้าใจอารมณ์ของตนเอง รู้วิธีที่จะจัดการกับความรู้สึกได้อย่างเหมาะสม เช่น ขณะโกรธก็รู้ว่าตนกำลังโกรธ แทนที่จะแสดงอารมณ์โกรธใส่คนอื่น หันไปเขียนระบายอารมณ์ลงในสมุดบันทึกแทน เมื่อสามารถเข้าใจความรู้สึกของตนเองได้ก็จะสามารถควบคุมตนเองได้เช่นกัน

2. ความสามารถในการมีความรู้สึกร่วมกับผู้อื่น การเข้าใจและเห็นอกเห็นใจคนอื่น ซึ่งเป็นทักษะที่เกี่ยวกับชีวิต ทำให้เด็กคนนั้น สามารถเข้าถึงคนอื่นได้ง่าย มีมนุษยสัมพันธ์ทีดีเป็นที่ยอมรับของกลุ่ม

3. ความสามารถในการมองโลกในแง่ดี เด็กที่มองโลกในแง่ดีจะมีความเชื่อมั่นในตนเอง เวลาเผชิญอุสรรคและความผิดหวัง จะไม่ยอมแพ้โดยง่าย แต่จะใช้ความพยายามที่จะเอาชนะ ซึ่งต่างกับเด็กที่มองโลกในแง่ร้าย ส่วนใหญ่จะโทษคนอื่นตลอด จะไม่พยายามที่จะลุกขึ้นมาสู้

4. ความสามารถในการจัดการแก้ปัญหาให้กับตัวเองอย่างเหมาะสม ทักษะในการแก้ปัญหาให้กับตัวเองได้อย่างเหมาะสม ต้องอาศัยประสบการณ์จากการฝึกช่วยตนเองตามวัย โดยไม่ต้องพึ่งพาอาศัยผู้อื่น ทำให้เรียนรู้ที่จะจัดการกับอุปสรรคหรือปัญหาต่างๆทีผ่านเข้ามาได้อย่างดีโดยไม่ทำให้ตนเอง และผู้อื่นเดือดร้อน ที่สำคัญก็คือสามารถอยู่ร่วมในสังคมอย่างมีความสุข

    พบว่า การอบรมเลี้ยงดูเด็กก็มีบทบาทสำคัญต่อการพัฒนาเด็กให้สามารถใช้ศักยภาพที่มีอย่างเต็มที่ ด้วยการฝึกช่วยตนเองตั้งแต่วัยเด็กเล็ก ฝึกการควบคุมอารมณ์เพื่อให้เด็กมีวุฒิภาวะตามวัย เพราะการที่เด็กจะเรียนได้ดี ต้องอาศัยความพยายามและความอดทนอย่างมาก หากพ่อแม่เลียงลูกในทางตรงข้าม ด้วยการปรนเปรอ และช่วยเด็กมากเกินไป จะทำให้เด็กติดสบาย ติดการพึ่งพา เนื่องจากขาดโอกาสและประสบการณ์ ซึ่งกลับเป็นตัวขัดขวางทำให้เด็กไม่สามารถใช้ศักยภาพได้อย่างเต็มที่

บทบาทการเลี้ยงดูที่เสริมทักษะทางอารมณ์

พ่อแม่เป็นแบบอย่างที่สำคัญ และมีบทบาทต่อการอบรมเลี้ยงดูให้เด็กสามารถเติบโตอย่างมีคุณภาพตามที่พ่อแม่ต้องการ ซึ่งมีหลักสำคัญ 3 ประการคือ

1. ให้ความรัก การให้ความรักดูแลและเอาใจใส่อย่างเหมาะสมทำให้เด็กเติบโตด้วยความรู้สึกมั่นคง ไว้วางใจผู้อื่น มองโลกในแง่ดี แต่หากได้ความรักเกินพอดี ตามใจไปหมดทุกอย่าง เด็กจะเคยชินต่อการได้รับ ให้ใครไม่เป็น กลายเป็นคนเห็นแก่ตัว เอาแต่ใจตัวเอง ที่สำคัญไม่สามารถสร้างความรู้สึกร่วมกับผู้ใดได้ เมื่อผิดหวังจะโทษคนอื่น มองโลกในแง่ร้ายทันที

2. ให้โอกาส เริ่มตั้งแต่ให้โอกาสเด็กได้ช่วยเลือตนเองในกิจวัตรประจำวัน ฝึกจนเกิดเป็นนิสัย และพัฒนาเป็น หน้าที่รับผิดชอบในเวลาต่อมา ที่สำคัญ จะต้องพยายามเปิดโอกาสให้เด็ก ได้เรียนรู้การแก้ปัญหาด้วยตัวเอง ฝึกให้รู้จักคิดและปฏิบัติจนสำเร็จได้ด้วยตัวเอง หากพ่อแม่ไม่เปิดโอกาสให้เด็กพึ่งตนเอง เด็กก็จะต้องพึ่งพาผู้อื่นทำให้ขาดความมั่นใจ ไม่เป็นตัวของตัวเอง ติดสบาย ขาดความอดทน ขาดประสบการณ์ ทำให้ไม่สามารถแก้ปัญหาด้วยตนเองได้

3. ให้ขอบเขต การให้ขอบเขตที่เหมาะสม คือ การฝึกวินัยนั่นเอง เด็กทุกคนต้องการความรู้สึก มั่นคง ปลอดภัย ความรู้สึกเหล่านี้จะเกิดได้ก็ต่อเมื่อเด็กได้เรียนรู้ถึงขอบเขตที่เขาสามารถทำได้โดยไม่ไปละเมิดสิทธิของผู้อื่น และไม่ทำให้ผู้อื่นเดือดร้อน ที่สำคัญทำให้เด็กได้เรียนรู้การควบคุมตนเอง รู้จักฝึกอดทนรอคอย ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่ใช้ในการเรียน

    จากการเลี้ยงดูที่อบอุ่น ให้โอกาสและขอบเขตกับเด็กอย่างเหมาะสม ทำให้เด็กเรียนรู้ที่จะสามารถเข้าใจความรู้สึกของตนเองและผู้อื่นได้อย่างดี สามารถก้าวไปสู่การควบคุมตนเองทำให้เกิดวินัยในตนเองขึ้นมา และหากเด็กมีจริยธรรมซึ่งได้จากการอบรมสั่งสอนเป็นพื้นฐานร่วมด้วย ฏ็จะสามารถพัฒนาเด็กคนนั้นเติบโตขึ้นอย่างมีคุณภาพ พร้อมที่จะประสบความสำเร็จในทุกๆด้าน

(ข้อมูลจาก แผ่นพับ ฝึกลูกประสบความสำเร็จในชีวิต หน่วยจิตเวชเด็ก ภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล)