กระเพาะอาหาร

๑. เบื่ออาหารนานเกินสองสัปดาห์ รู้สึกตื้อแม้เพิ่งจะรับประทานอาหารไปได้ไม่กี่คำ
๒. อาหารไม่ย่อย โดยเฉพาะหลังกินอาหารใหม่ๆ เป็นนานเกินสองสัปดาห์
๓. อาเจียนเป็นเลือด หรือคล้ายนํ้าถุงกาแฟ
๔. อุจจาระดำคล้ายนํ้ามันดิน โดยไม่ได้กินยาที่เข้าสารเหล็ก
๕. นํ้าหนักลดลงอย่างรวดเร็ว อ่อนเพลีย และซึมเซา (มักเป็นระยะท้าย)
๖. ท้องอืดหรืออาหารไม่ย่อยบ่อย
๗. รู้สึกเหมือนมีก้อนเนื้องอกในช่องท้อง
 

  ช่องปาก ช่องคอ และกล่องเสียง

๑. เสียงแหบนานเกินสามสัปดาห์
๒. มีแผลหรือแผ่นเนื้อสีขาว หรือก้อนบริเวณริมฝีปาก ลิ้น กระพุ้งแก้ม ช่องคอ ฯลฯ ที่ไม่หายในสามสัปดาห์
๓. มีเลือดออกซํ้าๆจากลิ้น กระพุ้งแก้ม หรือช่องคอ
๔. มีแผลเปื่อยที่ปากที่ไม่ได้รับการรักษา หรือเป็นแผลเรื้อรังที่เหงือก เนื่องจากการกดทับของฟันปลอมที่ใส่ไว้ประจำหรือเป็นเวลานาน

มะเร็งในลำคอ

อาการ :

เสียงแหบพร่าไปทันที มีก้อนบวมในทันที ทำให้รู้สึกว่ากลืนอาหารได้ลำบาก หรือมีการขยายตัวของต่อมในลำคอที่โตขึ้นจนสามารถจับและรู้สึกได้

  เต้านม

๑. ขนาดเปลี่ยนแปลงไป บวมหรือผิวเนื้อทรวงอกหนาขึ้น
๒. มีของเหลวออกมาทางหัวนม ไม่ว่าเป็นเลือด หรือเป็นสีเหลือง สีเขียว
๓. มีก้อนในเต้านม โดยมากไม่ปวด
๔. มีก้อนบวมจนจับได้เมื่อคลำบริเวณใต้รักแร้ บางครั้งอาจมีตุ่มหรือสิวเกิดขึ้นที่เต้านมเป็นเวลานาน
๕. ผิวหนังที่คลุมเต้านมมีรอยบุ๋ม หรือดูคล้ายผิวส้ม
๖. มีแผลถลอก ตกสะเก็ด หรือระคายบริเวณหัวนม
 
ควรระวังเพราะผู้หญิง 9 ใน 10 คนจะมีอาการบวมของก้อนเนื้อบริเวณทรวงอกโดยไม่ทราบสาเหตุ เมื่อมีอายุมากขึ้น เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน ทำให้เกิดเป็นถุงน้ำใต้ผิวหนังที่เรียกว่าซีสต์ ซึ่งควรต้องค้นหาสาเหตุของอาการบวมนั้นให้ชัดเจนเสียก่อนว่าคืออะไรกันแน่
 

  ไต กระเพาะปัสสาวะ ต่อมลูกหมาก

๑. มีเลือดปนปัสสาวะ
๒. ปวดแสบขณะถ่ายปัสสาวะ
๓. ปัสสาวะบ่อย
๔. ถ่ายปัสสาวะไม่ออก หรือถ่ายไม่หมด รั่วซึมหลังถ่าย
 

  ไทรอยด์

๑. มักเป็นในคนอายุน้อย มีอาการไม่มาก (ที่มีอาการมากเป็นโรคไทรอยด์เป็นพิษ ไม่ใช่มะเร็ง)
๒. มีก้อนกลมลูกเดียว คลำได้มานานเป็นสิบปี อาจมีมะเร็งแทรกได้ ทำท่าจะโตเร็วขึ้น (พิสูจน์โรคโดยเจาะด้วยเข็มไปตรวจ เอกซเรย์แสกนภาพไทรอยด์)
๓. บางคนปวดกระดูก กระดูกหัก เพราะมะเร็งแพร่กระจายสู่กระดูก ขณะที่มะเร็งมีปฐมภูมิก้อนเล็กนิดเดียว
 

  ปอด

๑. เจ็บหน้าอก และหายใจลำบาก หรืออาจมีอาการหอบปนอยู่ด้วยทั้งๆที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
๒. ไอเรื้อรัง
๓. ไอมีเลือด หรือไอเป็นเลือด มีเสมหะปนมากับน้ำลาย
๔. นํ้าหนักลดฮวบฮาบโดยไม่รู้สาเหตุ
๕. ซีดลง หรือเลือดจาง
 

  ผิวหนัง

๑. ผิวหนังเปลี่ยนสี มีเลือดออกบ่อย หรือมีก้อนโตขึ้นเร็วจากไฝหรือหูด และมีการเปลี่ยนสีหรือรูปร่าง ขนาด
๒. แผลเปื่อยพุพอง แผลเรื้อรังที่ไม่หายในสาม-สี่สัปดาห์ โดยเฉพาะในบริเวณจมูก ใบหน้า และบริเวณที่มีการกด ถูไถ ระคายเคือง

นอกจากนี้ อาการอันตรายอีกอย่างหนึ่งที่ เรียกว่าเมลาโนมา (Melanoma) คือ เนื้องอกที่ประกอบด้วยเซลล์ที่มีเมลานินสะสมอยู่ เช่น กระ จุดด่าง หรือไฝ
ถ้าคุณมีไฝมากกว่า 50 เม็ดทั่วร่างกาย หรือมีคนในครอบครัวที่มีประวัติว่าเคยเป็นโรคนี้มาก่อนคุณจะมีอัตราเสี่ยงสูง กว่าคนอื่นๆ
 

  มดลูกและคอมดลูก

๑. เลือดออกทางช่องคลอดในสตรีที่พ้นวัยหมดระดู, มีเลือดออกจากช่องคลอดทั้งๆที่ไม่ใช่เวลารอบเดือนปกติของคุณ
๒. มีเลือดออกผิดธรรมดา โดยเฉพาะนอกรอบระดู
๓. มีของเหลวผิดธรรมดาออกจากช่องคลอด
๔. มีเลือดออกตอนมีเพศสัมพันธ์  หรือมีอาการเจ็บปวดและมีเลือดออกหลังจากมีเพศสัมพันธ์
๕. เลือดออกมากเกินไปตอนมีระดู

หากพบว่ามีสิ่งเหล่านี้เกิดขึ้น
การตรวจโดยขูดเนื้อเยื่อจากบริเวณดังกล่าวไปตรวจด้วยกล้องจุลทรรศน์จะรู้ได้

  มะเร็งในมดลูก และมะเร็งรังไข่

 มะเร็งในมดลูก

อาการ :
มีเลือดออกหลังการมีเพศสัมพันธ์ หรือบางครั้งอาจมีความรู้สึกว่ามีก้อนเนื้อหรือมีอาการบวมในช่องท้อง

 มะเร็งรังไข่

อาการ :
ประจำเดือนมาไม่สม่ำเสมอ หรือการมีอาการเจ็บปวดหลังการมีเพศสัมพันธ์
มีปัญหาเกี่ยวกับลำไส้อาการท้องอืด อาหารไม่ย่อย น้ำหนักลดและมีอาการปวดหลัง
 

  ลิมโฟม่า (เนื้อร้ายระบบนํ้าเหลือง) โรคฮอดจ์กิน และลิมโฟซาร์ม่า (มะเร็งระบบนํ้าเหลือง)

๑. ต่อมนํ้าเหลืองโตขึ้นหลายแห่งทั่วร่างกาย อีกทั้งในช่องอก ช่องท้อง มีก้อนบวมเกิดขึ้นที่ใต้รักแร้หรือใต้ขาหนีบ โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าไม่ได้เกิดอาการติดเชื้อในบางส่วนของร่างกาย
๒. ไข้ อ่อนเพลีย เบื่ออาหาร นอนไม่หลับ โดยไม่รู้เหตุ
๓. อาจพบว่าต่อมนํ้าเหลืองโตมากอยู่แห่งเดียว เช่น ที่คอ (มักเป็นลิมโฟซาโคม่า)
 

  ลูคีเมีย (มะเร็งเม็ดเลือดขาว)

๑. พบบ่อยในคนอายุน้อย อาการน้อย เช่น อ่อนเพลีย พลังเสื่อม เหนื่อยง่ายและมีอาการซีดเซียวกว่าปกติ
๒. มักตรวจพบโดยบังเอิญ เมื่อเจาะตรวจเลือด พบว่ามีเม็ดเลือดขาวผิดปกติและจำนวนมากขึ้นมาก
๓. มักเกิดอาการฟกช้ำดำเขียว หรือมีเลือดออกทางผิวหนังได้ง่ายโดยไม่ทราบสาเหตุ
๔. มักจะเกิดร่วมกับอาหารปวดตามข้อต่างๆ ทั่วร่างกาย
๕. บางครั้งจะท้องอืด และเมื่อคลำดูจะพบว่ามีก้อนบวมที่ด้านซ้ายของช่องท้อง
 

  มะเร็งตับ

อาการ :

ปวดในช่องท้อง เบื่ออาหาร น้ำหนักลด
ตาและผิวเป็นสีออกเหลืองและเหลืองจัดจนเห็นได้ชัด
 

  ลำไส้ใหญ่ (โคลอน Colon) และไส้ตรง (เร็คตั๊ม Rectum)

๑. นิสัยการถ่ายอุจจาระเปลี่ยนแปลงไป
๒. อุจจาระมีลักษณะแปลกไป ทั้งขนาดก้อนและเนื้ออุจจาระ
๓. อุจจาระมีเลือดปน
๔. มีเลือดสีแดงคลํ้าหรือดำปนมากับอุจจาระ
(ถ้าใช้กระดาษทิชชูซับแล้ว เลือดมีสีแดงสดนั่นคืออาการของริดสีดวงทวาร แต่ถ้าเลือดมีสีดำคล้ำนั่นคือ อาการของโรคมะเร็งในลำไส้)
๕. ถ่ายอุจจาระยากหรือไม่ออก
๖. ท้องอืด
๗. ปวดท้องแบบเกร็งหรือรุนแรงเป็นระลอก (โคลิก) และระบบการย่อยผิดปกติ
๘. อาเจียนต่อเนื่อง บางทีลักษณะคล้ายอุจจาระ
๙. เลือดจางโดยหาเหตุไม่ได้
๑๐. น้ำหนักลดลงอย่างรวดเร็ว
 

  สมอง (ก้อนทูมทุกชนิด ไม่จำเป็นต้องเป็นมะเร็ง)

๑. ปวดหัวบ่อยและนาน และรุนแรงมากขึ้นตามลำดับ
๒. มีการผิดปกติของการมองเห็น ตาพร่า และเห็นแสงเขียวๆ แดงๆ ลอยไปมาเวลาปวดศีรษะ สายตาเปลี่ยนแปลง อาจมองเห็นภาพซ้อนและขอบภาพลดลง
๓. อ่อนกำลัง ชา ไม่มีแรง หรืออัมพาตของแขนหรือขาข้างใดข้างหนึ่ง (อวัยวะบางส่วนของร่างกายหยุดทำงาน)
๔. ชักทั้งตัว หรือชักเป็นบางส่วน เช่น แขนหรือขา กระตุก หรือเกร็ง
๕. หมดสติลึก ปลุกไม่ตื่น หรือเป็นลมโดยกะทันหัน
๖. บุคลิกภาพเปลี่ยนไปในบางคนโดยไม่มีเหตุนำมาก่อน
๗. อาเจียนพุ่งแรงกระทันหันโดยไม่มีคลื่นไส้นำมาก่อน
๘.ได้กลิ่นประหลาดๆโดยไม่มีต้นเหตุ

ควรให้ความระวังเป็นพิเศษหากคุณเคยมีประวัติการปวดหัวที่มีอาการเหล่านี้ประกอบอยู่ด้วย
 

  อัณฑะ

๑. มักพบในคนอายุน้อย-กลางคน
๒. มีก้อนโตขึ้นในถุงอัณฑะ หรือลูกอัณฑะโตขึ้น เป็นก้อนแข็งไม่ใช่นุ่ม ไม่ใช่ถุงนํ้า (ส่องไฟฉายดูว่าแสงลอดได้)
๓. อาจมีต่อมนํ้าเหลืองโตที่ขาหนีบ และในช่องท้อง เพราะมะเร็งแพร่กระจาย