แนวทางการป้องกัน
ขั้นปฐมภูมิ
(ขั้นต้น)
สำหรับบุรุษ
และสตรี |
-
ลดปริมาณไขมันในอาหารไม่ให้เกิน ๒๐
เปอร์เซ็นต์ของปริมาณแคลอรีในอาหารประจำวัน
-
ควบคุมปริมาณแคลอรีในอาหารไม่ให้นํ้าหนักขึ้น
-
เพิ่มปริมาณเส้นใย (ไฟเบอร์) ในอาหารอย่างน้อยวันละ ๒๕ กรัม
-
บริโภคผักและผลไม้วันละห้ามื้อ
-
กินอาหารที่อุดมวิตามินเอ ซี และอี
-
งดสูบบุหรี่ ซิการ์ กล้องยาเส้น บุหรี่พื้นเมือง งดเคี้ยวยาเส้น ใบเมี่ยง
และสูดยานัตถุ์
-
ถ้าดื่มสุรา เบียร์ ให้ลดลง ไม่มากกว่าสี่ดริ๊งค์ต่อสัปดาห์
-
ออกกำลังกายทุกวัน ขณะที่คุมปริมาณอาหารให้นํ้าหนักอยู่ตัว
-
งดตากแดดที่แรงจัดโดยตรง
-
ขจัดสารพิษที่อาจก่อมะเร็งซึ่งมีอยู่ในบ้านและที่ทำงาน เช่น ยาฆ่าแมลง
ยาฆ่าปลวก เรดอน แอสเบสดอส หากจำเป็นก็ใช้แต่น้อย และอย่าสัมผัสโดยตรง
-
ระวังสารพิษจากโรงงาน โดยเฉพาะสารพิษที่ก่อมะเร็ง ฝุ่นละอองและควันพิษ
หากมีปัญหาให้แจ้งหน่วยงานของรัฐที่รับผิดชอบดูแลเรื่องนี้
-
พยายามดำเนินชีวิตแบบไม่เครียดมากเกินไป
-
งดเพศสัมพันธ์สำส่อน พกคอนดอมติดตัวถ้างดไม่ได้
เพราะมีไวรัสติดต่อทางเพศสัมพันธ์บางตัวทำให้เกิดมะเร็งได้
|
แนวทางการป้องกัน
ขั้นทุติยภูมิ
(ขั้นสอง) |
-
เอกซเรย์ทรวงอกปีละครั้ง เพื่อตรวจก้อนหรือเงาทึบของมะเร็งปอด
-
พบแพทย์เมื่อมีอาการที่สงสัยมะเร็ง (ดูอาการเตือนของมะเร็งในระยะแรก)
-
ให้แพทย์ส่องกล้องเอนโดสโคป ตรวจอวัยวะที่สงสัย
-
สตรีต้องตรวจภายใน และทำแป็ป สเมียร์ปีละครั้งหรือตามที่แพทย์นัด
-
สตรีผู้สงสัยก้อนในเต้านม ให้แพทย์เอกซเรย์เต้านม (แมมโมกราฟี)
อาจลดอันตรายได้
๓๐ เปอร์เซ็นต์
-
บุรุษผู้มีอาการเกี่ยวกับต่อมลูกหมาก
ให้ตรวจหาแอนติเจนเฉพาะสำหรับมะเร็งต่อมลูกหมาก (พรอสเตต -
สเปซิฟิคแอนติเจน
หรือพีเอสเอ) ถ้าสูง แพทย์จะทำไบออปซี่ แต่แม้ได้ค่าปกติ
ก็ยังไม่อาจแยกมะเร็งออกไปได้
|
แนวทางการตรวจพิเศษ
สำหรับมะเร็งในเพศชาย
ที่มีความเสี่ยงต่อมะเร็งปานกลาง |
|
อายุ
๒๐ ถึง ๓๙ |
|
|
-
ตรวจลูกอัณฑะด้วยตนเองทุกเดือน
-
ตรวจผิวหนังด้วยตนเองเป็นระยะๆ
|
อายุ
๔๐ ถึง ๔๙ |
|
|
-
ตรวจลูกอัณฑะด้วยตนเองทุกเดือน
-
ตรวจผิวหนังด้วยตนเองเป็นระยะๆ
-
ให้แพทย์ตรวจโดยสอดนิ้วคลำทางทวารหนัก เพื่อแยกมะเร็งลำไส้ตรง
ลำไส้ใหญ่ช่วงล่าง และต่อมลูกหมาก ปีละครั้ง
-
ให้แพทย์ตรวจผิวหนังปีละครั้ง
|
อายุ
๕๐ ปีขึ้นไป |
|
|
-
ตรวจลูกอัณฑะด้วยตนเองทุกเดือน
-
ตรวจผิวหนังด้วยตนเองเป็นระยะๆ
-
ให้แพทย์ตรวจโดยสอดนิ้วคลำทางทวารหนัก เพื่อแยกมะเร็งลำไส้ตรง
ลำไส้ใหญ่ช่วงล่าง และต่อมลูกหมาก ปีละครั้ง
-
ให้แพทย์ส่องกล้องตรวจลำไส้ใหญ่ (ซิกมอยโดสโคป) ทุกสามถึงห้าปี
-
ให้แพทย์ตรวจแอนติเจนเฉพาะมะเร็งต่อมลูกหมาก (พีเอสเอ) ปีละครั้ง
-
ให้แพทย์ตรวจผิวหนังปีละครั้ง
|
แนวทางการตรวจพิเศษ
สำหรับมะเร็งในเพศหญิง
ที่มีความเสี่ยงต่อมะเร็งปานกลาง |
|
อายุ
๒๐ ถึง ๓๔ |
|
|
-
ตรวจเต้านมด้วยตนเองเดือนละครั้ง
-
ตรวจผิวหนังด้วยตนเองเป็นระยะๆ
-
ให้แพทย์ตรวจภายในช่องคลอด และทำแป็ป
สเมียร์ปีละครั้งโดยเฉพาะสตรีวัยเจริญพันธุ์
ถ้าตรวจได้ผลลบสามครั้งติดกัน
แพทย์จะพิจารณาว่าตรวจให้ห่างขึ้นได้
-
ให้แพทย์ตรวจเต้านมทุกสามปี
-
ให้แพทย์ตรวจร่างกายและแล็ปทั่วไปทุกสามปี
|
อายุ
๓๕ ถึง ๔๙ |
|
|
-
ตรวจเต้านมด้วยตนเองเดือนละครั้ง
-
ตรวจผิวหนังด้วยตนเองเป็นระยะๆ
-
ให้แพทย์ตรวจภายในช่องคลอด และทำแป็ป สเมียร์ปีละครั้ง
-
ให้แพทย์ตรวจเต้านมปีละครั้ง
-
เอกซเรย์ แมมโมกราฟี ทุกหนึ่งหรือสองปี
-
ให้แพทย์ทางทวารหนักหามะเร็งลำไส้ตรงและลำไส้ใหญ่ปีละครั้ง
-
ให้แพทย์ตรวจผิวหนังปีละครั้ง
|
อายุ
๕๐ ปีขึ้นไป |
|
|
-
ตรวจเต้านมด้วยตนเองเดือนละครั้ง
-
ตรวจผิวหนังด้วยตนเองเป็นระยะๆ
-
ให้แพทย์ตรวจภายในช่องคลอด และทำแป็ป สเมียร์ปีละครั้ง
-
ให้แพทย์ตรวจเต้านมและทำแมมโมกราฟีปีละครั้ง
-
ให้แพทย์ทางทวารหนักหามะเร็งลำไส้ตรงและลำไส้ใหญ่ปีละครั้ง
และตรวจเลือดในอุจจาระด้วย
-
ให้แพทย์ส่องกล้องตรวจลำไส้ใหญ่ (ซิกมอยโดสโคป) ทุกสามถึงห้าปี
-
ให้แพทย์ตรวจผิวหนังปีละครั้ง
|
ที่มาของข้อมูล
จาก
แคนเซอร์ฟรี โดย ซิดนีย์ เจ วินอะเวอร์,
พ.บ. และคณะ,
๑๙๙๕ - ไซมอน แอนด์ชูสเตอร์,
นิวยอร์ก |